อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์คนหนึ่ง ได้ติดต่อมาทางรายการ “ถกไม่เถียง” แจ้งว่าเขาออกจากแก๊งคอลเซนเตอร์มาได้ 1 ปีแล้ว อยากจะเปิดเผยสิ่งที่เขาเคยทำ เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ในการป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกหลอก และส่วนหนึ่งเขารู้สึกผิดกับการหลอกคนให้โอนเงิน จนหลายคนหมดเนื้อหมดตัว
อดีตแก๊งคอลเซนเตอร์คนนี้ ชื่อวิทย์ ได้อ้างว่าถูกเพื่อนชักชวนให้ไปทำงานที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา โดยแก๊งนี้โอนเงินมาให้ 2,000 บาท ให้ขึ้นรถไปลงอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากนั้นมีคนไทยมารับที่ขนส่ง พาลักลอบข้ามแดน มีรถตู้มารับไปที่กาสิโนซานโฮ เอนเตอร์เทนเมนต์ ในฝั่งปอยเปต กัมพูชา เเต่เมื่อไปถึงเเล้วกลับไม่ได้ทำงานอย่างที่คุยกันไว้เเต่ได้ทำที่เเก๊งคอลเซ็นเตอร์เเทนซึ่งมีเจ้าของเป็นคนจีน มีหลายบริษัทมาก ใช้วิธีหลอกแตกต่างกันไป
ระบบการทำงานเบื้องหลังของเเก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นจะมีการปลอมเป็นตำรวจที่วิดีโอคอลพูดคุยกับเหยื่อผ่านทางไลน์ ทำให้รู้ว่าระหว่างคุยกันผ่านทางวิดีโอคอล และหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ จนยอมกดรหัสธนาคารหน้าจอโทรศัพท์ของเหยื่อเอง ทางแก๊งจะสามารถเห็นภาพสะท้อนหน้าจอกลับมาทางคอมพิวเตอร์ และรู้ว่าเหยื่อกดรหัสอะไรด้วย
วิทย์เผยว่าในเเต่ละวันได้โทรหลอกเหยื่อประมาณ 300 สาย ซึ่งในเเก๊งมี 30 คนในทีม รวม 9 พันรายต่อวัน การโทรหาเหยื่อ พวกเขาไม่ต้องกดหมายเลขโทรเอง แต่จะมีเครื่องที่เรียกว่าเครื่องยิงแอด ต่อสายพร้อมกันครั้งละ 30 เบอร์ เมื่อมีเหยื่อรับสาย เขาจะกดที่เบอร์โทร ซึ่งขึ้นบนหน้าจอไอโฟน ก็จะเห็นชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ขึ้นโชว์หน้าจอ
ข้อมูลหลักๆที่เเก๊งคอลเซ็นเตอร์มีคือ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเบอร์โทรศัพท์ ฉะนั้นถ้าเป็นเบอร์แปลกโทรมา ไม่ต้องรับ ถ้ารับแล้วรู้สึกผิดปกติ ไม่ต้องคุยต่อ ตัดสายทิ้ง อย่าถ่ายรูปเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชนไว้ในมือถือ และเวลาไปติดต่อราชการ เอกชน ที่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน เอกสารประจำตัว ให้ขีดฆ่าทุกครั้ง ลงวันที่กำกับไว้