ส่วนผสม
- ใบต้มขี้เหล็ก 250 กรัม
- เนื้อย่าง 300 กรัม
- เนื้อปลาอินทรีย์เค็ม 1 ชต.
- เนื้อปลานิล 1/2 ตัว
- กระชาย 1/2 ถ้วย
- พริกแกงแดง 1/2 ถ้วย
- กะทิ 600 กรัม 1 กระป๋อง
- น้ำปลาดี 3-4 ชต.
- น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.
วิธีทำ
สิ่งแรกนำใบขี้เหล็กที่ซื้อมนำมาต้มก่อนค่ะ โดยใส่เกลือ เพื่อลดความขม ต้มแล้วล้างน้ำเปล่า บีบน้ำออก ทำแบบนี้ 2 รอบค่ะ ความขมจะลดลงมากเลยค่ะ
ระหว่างต้มใบขี้เหล็ก นำเนื้อ หรือ เนื้อหมู มาหมักกับน้ำปลา หรือ ซีอิ้วขาว ซัก 5 นาที ก่อนนำไปย่างค่ะ ใครชอบหมูก็เปลี่ยนเป็นเนื้อหมู คอหมูก็อร่อยค่ะ
จากนั้นนำเนื้อไปย่างค่ะ ย่างแค่พอสุก แบบเนื้อน้ำตกพอค่ะ อย่าให้เนื้อสุกมาก จะแห้งแกงไม่อร่อย
จากนั้นนำเนื้อย่างมาหั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วแต่ชอบ และจำนำชิ้นเนื้อปลาเค็ม มาใส่น้ำต้มให้สุก กรองเอาแต่น้ำปลาเค็มเข้มข้น ใครไม่ใช้ปลาเค็มจะใช้ปลาร้าได้เลยค่ะ
จากนั้นก็เตรียมเครื่องแกงกันค่ะ ถ้าให้สะดวกนำพริกแกงแดง มาตำรวมกับกระชายให้หอมเลยค่ะ เราจะใส่กระชายเพิ่มความหอม เพราะว่า แกงขี้เหล็กรสชาติจะคล้ายน้ำยาค่ะ เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะทำแบบน้ำเข้มข้น ตาจะใช้เนื้อปลาต้มสุกตำรวมกับน้ำพริกด้วยค่ะ ใครมีปลาช่อน ปลานิล ปลาอะไรแล้วแต่สะดวกค่ะ
เริ่มแกงกันโดยนำหัวกะทิมาผัดก้บเครื่องแกงที่เราตำไว้ ให้กะทิแตกมัน แต่ไม่ต้องมากถึงกับแตกมันเหมือนเราแกงเขียวหวาน หรือ แกงเผ็ดอื่น ๆเมื่อกะทิเริ่มแตกมัน นำเนื้อย่างที่เราเตรียมไว้มาผัดกับพริกแกงให้น้ำพริกเข้ากันกับเนื้อย่าง
แล้วเติมหางกะทิค่ะ พอเดือด จะนำใบขี้เหล็กที่ล้างน้ำบีบน้ำออกแล้วมาใส่หม้อ ลงเคี่ยวกับน้ำแกง พอให้ใบขี้เหล็กอ่อนนุ่มเข้ากับน้ำแกงได้ แกงชนิดนี้ไม่ใส่น้ำแกงมากนะคะ พอคลุกคลิก
ปรุงรสด้วย น้ำต้มปลาเคม หรือ น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาค่ะ แกงทุกชนิดถ้าพริกแกงดี ยังไงก็อร่อยค่ะ ยิ่งถ้าตำเองจะได้กลิ่นหอมไปทั่วบ้านชิมรสชาติ ให้ถูกใจนะคะ
เคี่ยวน้ำแกงอีกซักแป๊บ ชิมรสชาติถูกใจแล้ว สุดท้ายจะใส่หัวกะทิ ปิดท้าย คนให้เข้ากัน จะได้รสชาติอร่อยมากชึ้นค่ะ ปิดไฟ ตักเสริฟ ร้อน ๆ พร้อมข้าวสวยได้เลยค่ะ
เสร็จแล้วค่ะแกงขี้เหล็ก กับเนื้อย่าง