เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าล่าสุดคดีสาวไทยขับรถชนนศ.หนุ่มอเมริกันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาและได้หลบหนีมากบดานในไทย ก่อนที่ทางการสหรัฐจะดำเนินการประสานด้วยวาจาผ่านทางสถานฑูต และประสานทางการไทยเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยซึ่งได้รับการประสานงานจาก FBI ก็สามารถติดตามตัวเธอได้สำเร็จและเกลี้ยกล่อมให้เธอเดินทางกลับสหรัฐ เพื่อรับการพิจารณาโทษ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า นางทับทิม ซู ฮาวสัน อายุ 57 ปี สาวไทยผู้ต้องหาคดีขับรถชนนักศึกษาอเมริกันจนเสียชีวิตปรากฏตัวที่ศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่เธอเป็นผู้ขับรถชนนักศึกษาหนุ่มอเมริกันนั้น เธอได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษา ลิซา อซาดอเรียน ให้ประกันตัวออกจากเรือนจำได้ด้วยวงเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 35 ล้านบาท
เดิมทีแอนเดรีย อัจเลานี ผู้ช่วยอัยการรัฐ ร้องขอให้ศาลตั้งวงเงินประกันตัว นางทับทิมที่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 171. 5 ล้านบาท โดยอ้างว่า นางทับทิม มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงที่หลบหนีออกนอกประเทศทางเครื่องบิน เนื่องจากเธอมีพฤติกรรมหลบหนีข้ามทวีป โดยขึ้นเครื่องบินกลับมายังประเทศไทยอันเป็นบ้านเกิด หลังจากรู้ตัวว่าก่อเหตุขับรถชนคนจนเสียชีวิต
ด้าน จาลาล ดัลโล ทนายของนางทับทิม แย้งว่า เธอไม่มีพฤติกรรมดังที่กล่าวอ้าง เนื่องจากเธออาศัยอยู่ในสหรัฐเป็นเวลากว่า 12 ปีและสมัครใจที่จะเดินทางกลับจากประเทศไทยเพื่อมารับการพิจารณาคดีที่สหรัฐ อีกทั้งทางสำนักงานสืบสวนของรัฐบาลกลางก็ได้ทำการยึดบัตรประจำตัวผู้ขับขี่รถยนต์และพาสปอร์ตทั้งสองฉบับของเธอเอาไว้แล้ว
นอกจากนี้ ดัลโล ยังอ้างว่า สาเหตุที่ นางทับทิม เดินทางกลับไปยังประเทศไทยนั้นเป็นเพราะว่า เธอต้องการความช่วยเหลือและกำลังใจจากสามีของเธอ นางทับทิมไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไม่ได้เดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อหลบหนีหรือซ่อนตัว เธอแค่ต้องการการสนับสนุนจากสามี ซึ่งเป็นฝ่ายโน้มน้าวให้เธอกลับมารับโทษ
อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก นางทับทิม สามารถรวบรวมหลักทรัพย์และประกันตัวออกจากเรือนจำได้ เธอจะต้องโดนกักบริเวณอยู่ในบ้านและต้องสวมเครื่องติดตามตัวที่ระบุตำแหน่งด้วยระบบจีพีเอสตลอดเวลา โดยปัจจุบันนางทับทิมถูกคุมขังในคุกโอ๊คแลนด์เคาน์ตี