เห็นรอยช้ำสีแดงบนคอลูกสาววัย 15 นึกว่าแมลงกัด แต่มองชัดๆ กลายเป็น “รอยจูบ” พ่อโมโหด่าเดือด แต่เจอลูกสวนกลับพูดไม่ออก ปัญหาเกิดจากใครกันแน่?!
เมื่อพูดถึง “ความรักในวัยเรียน” พ่อแม่หลายคนมักมีทัศนคติแง่ลบ รู้สึกไม่พอใจและกังวลกับความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกของลูกๆ คิดว่ามันสามารถสร้างปัญหามากมาย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่พัฒนาของสื่อและอินเทอร์เน็ต ทำให้เด็กๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลมากมายได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกต่อเพศตรงข้าม นี่เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาตามปกติเวลานี้ในฐานะผู้ปกครองต้องใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงของบุตรหลาน ด้วยวิธีการที่ “เหมาะสม”
ล่าสุดคุณพ่อชื่อ “หลิว” จากประเทศจีน ได้แชร์บทสนทนาสั้นๆ ระหว่างตนเองกับลูกสาววัย 15 ปี ลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้พ่อแม่นับไม่ถ้วนได้ย้อนกลับมาคิดถึงความสัมพันธ์ในครองครัวของตนเอง
นายหลิวบอกว่าเขามักจะยุ่งกับงานและไม่ค่อยกลับบ้าน ส่วนภรรยาก็มักจะต้องเดินทางไปทำธุรกิจ โดยส่วนมากแล้วลูกสาวจะพักอยู่ในหอพักของโรงเรียนเป็นหลัก กระทั่งสุดสัปดาห์หนึ่ง ขณะที่ไปรับลูกสาวจากโรงเรียน เขาบังเอิญพบ “รอยช้ำสีแดง” จำนวนมากที่คอของลูกสาว
ตอนแรกเขาคิดว่าลูกสาวอาจถูกแมลงกัด เลยถามอย่างกังวลว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อมในหอพักไม่สะอาดหรือเปล่า?อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ลูกสาวกลับเฉยเมยไม่ให้คำตอบใดๆ อีกทั้งยังแสดงท่าทีราวกับต้องการหลีกเลี่ยง โดยรีบเอาผ้าพันคอคลุมปิดบริเวณรอยดังกล่าวแล้วเดินหนีไป
พฤติกรรมของลูกสาวทำให้นายหลิวตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงดึงคอเสื้อของลูกสาวและมองดูใกล้ๆ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ในตอนนี้เองถึงเมื่อค้นพบ “ความลับ” ของลูกสาว มันไม่ใช่รอยแมลงกัดเลย แต่เป็น “รอยจูบ” ซึ่งทำให้เขาโกรธมากจึงดุด่าลูกออกไปทันที
เมื่อต้องเผชิญกับคำดุด่าที่จู้จี้จุกจิกของพ่อ ลูกสาวไม่เพียงไม่กลัวเท่านั้น แต่ยังโต้ตอบอย่างรุนแรงอีกด้วย “ทำไมหนูถึงมีความรักไม่ได้ เขาใส่ใจและเป็นห่วงหนูมาก หนูรู้สึกถึงความปลอดภัย ความอบอุ่น และความรักที่เขามีต่อหนู
มันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่ค่อยทำ พ่อกับแม่ดูแลลูกตัวเองมากแค่ไหน? กลับบ้านดึกทุกวันตั้งแต่หนูเด็กๆ หนูต้องอยู่ที่โรงเรียน ที่บ้านญาติ หรือเพื่อนบ้านมาโดยตลอด พ่อแม่ไม่เคยทำหน้าที่ตัวเองเลย คนที่ผิดคือ พ่อแม่ ไม่ใช่ลูก!”
หลังจากฟังคำพูดที่อัดอั้นของลูกสาวแล้ว นายหลิวก็ละอานใจ และทำได้เพียงนิ่งเงียบ เพราะสิ่งที่ลูกระบายออกมานั้นเป็นเรื่องจริงล้วนๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาและภรรยามักออกจากบ้านเร็วและกลับบ้านดึกเพื่อหาเงิน และไม่มีเวลาให้ลูกสาวนั่นเป็นสาเหตุที่เขาและภรรยาไม่รู้ว่าลูกสาวของพวกเขาที่กำลังในช่วงวัยแรกรุ่น เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ต้องการการดูและพูดคุยกับพ่อแม่มากขึ้น
ในความเป็นจริง นอกเหนือจากปัจจัยทางสรีรวิทยาตามธรรมชาติแล้ว เด็ก ๆ ยังได้พัฒนา “ความรักในวัยเรียน” เมื่อถึงช่วงวัยมัธยมต้นและมัธยมปลายเนื่องมาจากสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย หากพ่อแม่ไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ จะเป็นเรื่องยากมากสำหรับที่จะมห้คำแนะนำหรือเข้าแทรกแซงได้ทันเวลา เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลูกๆ ให้ดำเนินไปอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ลูกของตนผ่านช่วงวัยแรกรุ่นมาได้อย่างดี
