ชายวัย 31 ปี ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองเป็นอัมพาตครึ่งซีก จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 2 แสนกว่า สู้ชีวิต 6 ปี กว่าสุขภาพจะกลับมาเหมือนเดิม
เว็บไซต์ HK01 รายงานว่า ชายชาวจีนรายหนึ่ง ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu เล่าถึงการต่อสู้ของเขา ตั้งแต่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองและการว่างงาน ไปจนถึงการรักษาฟื้นฟู และการกลับมาทำงาน
เรื่องราวเริ่มขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ขณะนั้นเขามีอายุ 31 ปี และพบว่ามีอาการผิดปกติทางร่างกาย หลังจากตื่นนอน จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเป็นอัมพาตที่ใบหน้า แขนขาซ้ายควบคุมไม่ได้ และพูดไม่ชัด เพื่อยืนยันสภาพร่างกายของเขา เขาใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปการแสดงออกทางสีหน้า และพบว่าใบหน้าของเขาเป็นอัมพาตและไม่สามารถแสดงสีหน้าใด ๆ ที่ซีกซ้ายได้
แต่ในขณะนั้นเขารู้สึกไม่สบายตัว และอ่อนแอ และเขาเหนื่อยมากจนลืมตาไม่ขึ้น ใครจะคิดว่า เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สถานการณ์จะกลับตาลปัตร เขาตื่นขึ้นมาบนเตียงในโรงพยาบาลหลังจากอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลา 3 วัน และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ และอัมพาตครึ่งซีก
ชายคนนี้ อธิบายว่า โรคหลอดเลือดสมองตีบของเขาเกี่ยวข้องกับนิสัยที่ไม่ดี เขาชี้ให้เห็นว่า ความคิดในอดีตของเขาคือพยายามทุกวิถีทางตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากเรียนจบ เขาทำงานมามากกว่า 10 ปี และในที่สุดก็มีรายได้มากกว่า 50,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 253,000 บาท)
อย่างไรก็ตาม เขามีภาระงานหนัก ไม่เพียงแต่ต้องทำงานในวันสุดสัปดาห์เท่านั้น แต่เขาได้นอนเพียงวันละ 4-5 ชั่วโมง ในช่วง 3 เดือน ก่อนป่วยโคม่า การได้พักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้เขาหัวเราะกับตัวเองว่า “เหนื่อยจนเกือบตาย” และจบลงด้วยการหลับไปนาน จู่ ๆ เขาก็เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ กลายเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบที่อายุน้อยที่สุดในโรงพยาบาล
ชายรายนี้ ยังกล่าวว่า เขาเคยหารายได้ 50,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 253,000 บาท) และอดอยากในชั่วข้ามคืน เนื่องจากเขาสูญเสียความสามารถในการทำงานและหารายได้ของเขา เขาต้องไปโรงพยาบาลทุกวันเพื่อรับการบำบัดฟื้นฟู เป็นการฝังเข็มและกายภาพบำบัด ความเจ็บป่วย การว่างงาน และค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาลทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก
การป่วยครั้งนี้ราวกับต้องกลับมาเริ่มต้นใช้ชีวิตอีกครั้ง เพราะต้องเรียนรู้ที่จะพูดและเดินใหม่ เหมือนเป็นเด็กทารก แต่เขาก็ไม่หมดหวังและยังคงมุ่งมั่นรักษาตัว กระทั่ง 6 ปีให้หลัง ในที่สุดเขาก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว แขนขาที่ได้รับผลกระทบก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวด้วย เขาสามารถออกกำลังกายได้อย่างอิสระ และกลับมาทำงานได้แล้ว