ชายป่วยแปลก ๆ ทนทุกข์ทรมานมาเกือบ 15 ปี จนต้องใช้วีลแชร์ เพิ่งรู้ต้นเหตุมาจาก “ยาดี” ที่เคยโด๊ป หมอชี้หวิดเป็นอัมพาต
เว็บไซต์ South China Morning Post รายงานว่า ชายคนหนึ่งในจีน ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ และคลื่นไส้มานานเกือบ 15 ปี สุขภาพของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ จนต้องอาศัยวีลแชร์ในการเคลื่อนที่ รวมถึงใช้สายสวนปัสสาวะ
แต่เขาไม่รู้เลยว่าต้นตอของปัญหาทั้งหมดจะเกิดขึ้นจาก “ยาดี” ที่เขาเคยกินเข้าไปในอดีต
โดยเมื่อเกือบ 15 ปีก่อน นายกัว ผู้ป่วยรายนี้เคยกินดีงูสด ๆ เข้าไป รวมถึงยาดองหนังงู ซึ่งคนส่วนมากเชื่อว่าเป็นยาบำรุงชั้นดีที่ช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ
หวง มินจุน แพทย์ที่ดูแลเคสดังกล่าว กล่าวว่า สาเหตุของอาการป่วย เพราะชิ้นส่วนงูทิ้งของเสียจากพยาธิทำให้ไขสันหลังของผู้ป่วยปนเปื้อน พยาธิยังแพร่พันธุ์และเติบโตมาก บางตัวยาวถึง 6 เซนติเมตร ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัว
สำหรับพยาธิที่พบนั้น คือ Spirometra mansoni ซึ่งเป็นพยาธิตัวตืดชนิดหนึ่งที่มักพบในสัตว์จำพวก งู กบ แมว และสุนัข ซึ่งหลังการผ่าตัดผู้ป่วยก็ยังต้องกินยาถ่ายพยาธิต่อ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีไข่พยาธิหลงเหลืออยู่ในร่างกาย
แพทย์เชื่อว่าผู้ป่วยได้รับพยาธิมาจากดีงูสด ๆ ที่เขากินเข้าไป รวมถึงยาดองที่มีหนังงูสด ๆ แช่อยู่ ที่เขาดื่มเมื่อ 15 ปีก่อน
ขณะที่ นายกัว ยอมรับว่า ตอนนั้นเขามีความร้อนภายในตัวมากเกินไป เลยตัดสินใจพึ่งการรักษาในแบบพื้นบ้าน ด้วยการกินส่วนผสมของงู
ทั้งนี้ ตามความเชื่อพื้นบ้านของจีน เชื่อกันว่าดีงูสด ๆ นั้นมีคุณค่าทางยาสูง การกินดีงูจะช่วยรักษาอาการต่าง ๆ เช่น ลมแดด อาการไอ และอาหารเป็นพิษได้
ขณะที่ยาดองงูก็ถูกเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน โดยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มการทำงานของไต บรรเทาอาการปวด และรักษาอาการปวดศีรษะ
แพทย์ยังบอกว่า ชายรายนี้อยู่ในสภาพที่กำลังจะกลายเป็นอัมพาต ซึ่งหากปล่อยไว้นานกว่านี้ก็คงไม่อาจหยุดยั้งเรื่องนั้นได้
ทั้งนี้ ยังอยากฝากเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำปนเปื้อน รวมถึงการกินเนื้อที่ปรุงไม่สุกที่อาจมีความเสี่ยงต่อการได้รับพยาธิด้วย