แม่บ้านหน้าซีด เห็นไม้กระดานเก่าๆ วางอยู่ เลยหยิบไปทิ้ง ไม่คิดว่าต้องขึ้นศาล โดนคนแก่ฟ้องเรียก 8 แสน เผยมีคุณค่าทางจิตใจ
เหตุการณ์เกิดขึ้นในเขตที่อยู่อาศัยในเมืองเซียะเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน หญิงชราคนหนึ่งได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อพนักงานทำความสะอาดหญิง โทษฐานขโมยแผ่นเตียงไม้อันมีคุณค่าไปจากบ้านของเธอ เรียกร้องขอค่าชดเชยสูงถึง 170,000 หยวน (ประมาณ 8.5 แสนบาท)
ตามรายงานพบว่า พนักงานทำความสะอาดหญิงเห็นแผ่นไม้กระดานวางอยู่บริเวณทางเดินชั้นล่าง เมื่อพิจารณาว่ามันเก่าแล้วจึงหยิบไปทิ้ง โดยไม่ได้ขอความเห็นจากเจ้าของเสียก่อน เพราะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันคือแผ่นกระดานเตียงไม้อันล้ำค่า ซึ่งเป็น “ของขวัญแต่งงาน” ของหญิงชราและสามีผู้ล่วงลับ มูลค่า 150,000 หยวน (ประมาณ 7.6 แสนบาท เมื่อเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน) มีความหมายพิเศษ เพราะผ่านการใช้มาเกือบ 30 ปีแล้ว ที่คู่รักผ่านพ้นความขมขื่นและความหอมหวานของชีวิตร่วมมา
หญิงชราเปิดเผยว่า สาเหตุที่เธอนำแผ่นไม้กระดานมาวางตรงทางเดินนั้น เนื่องจากสามีของเธอใช้เวลาวันสุดท้ายของเขาบนกระดานข้างเตียงนี้ เมื่อสามีเสียชีวิตลงเธอจึงนำแผ่นกระดานมาขัดทำความสะอาด ตั้งใจวางไว้ตรงทางเดินให้แห้งก่อนแล้วจะมาเก็บกลับไป โดยไม่คาดคิดว่าแผ่นกระดานจะหายไปหลังจากนั้นไม่นาน
เมื่อเปิดกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ พบว่ามีพนักงานทำความสะอาดหญิงในย่านที่อยู่อาศัยเป็นคนมาหยิบไป หญิงชราจึงติดต่อบุคคลนี้ผ่านบริษัทจัดการทรัพย์สินทันที โดยยืนยันว่าตราบใดที่ของดังกล่าวถูกส่งคืนจะถือว่าไม่มีการก่อ “อาชญากรรม” อย่างไรก็ตาม แผ่นไม้นั้นถูกขายไปแล้วในราคา 25 หยวน (ประมาณ 125 บาท) อีกทั้งยังถูกนำไปรีไซเคิลจนไม่สามารถนำกลับมาได้อีก
ด้วยความโกรธแค้นที่สูญเสียของขวัญวันแต่งงานที่เต็มไปด้วยความทรงจำ หญิงชราจึงได้ยื่นฟ้องต่อพนักงานทำความสะอาด โดยขอ “ค่าชดเชย” สำหรับแผ่นไม้กระดานเตียงมูลค่า 150,000 หยวน และเงินชดเชยความเสียหายทางจิตอีก 20,000 หยวน รวมเป็นเงิน 170,000 หยวน (ประมาณ 8.5 แสนบาท)
ที่หน้าศาลเซี่ยเหมิน พนักงานทำความสะอาดหญิงสูงอายุคนหนึ่งหลั่งน้ำตา กล่าวว่า “ฉันไม่เคยตั้งใจจะจัดสรรทรัพย์สินผู้อื่น ฉันแค่ทำความสะอาดขยะตามลักษณะงานของฉัน”
หลังจากได้รับสำนวนคดีแล้ว ศาลก็ได้สืบค้นและชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนพิพากษาว่าพนักงานทำความสะอาดหญิง “ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆ” เพราะการทิ้งสิ่งของส่วนตัวไว้ในพื้นที่สาธารณะในอพาร์ทเมนท์อาจขัดขวางหรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ ดังนั้นพนักงานทำความสะอาดจึงเพียงแต่ทำหน้าที่ของตน และไม่ถือเป็นกระทำความผิดต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
